วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

สาวต้องสงสัย คดีตั้มโอนนาน สูญ7ล้าน โร่แจ้งตร. เพื่อนซี้ ใช้ชื่อเปิดบัญชี อวดชีวิตหรูหรา


สาวต้องสงสัย คดีตั้มโอนนาน สูญ7ล้าน โร่แจ้งตร. เพื่อนซี้ ใช้ชื่อเปิดบัญชี อวดชีวิตหรูหรา

วันที่ 27 ก.ค. ที่กองปราบปราม น.ส.นินนิสา สิงห์ทอง วัย 34 ปี เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อขอลงบันทึกประจำวันแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังจากที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ในคดีที่นักธุรกิจหนุ่ม “ตั้ม โอนนาน” เข้าแจ้งความกับตำรวจ บก.ปอท. เมื่อวานที่ผ่านมา ( 26 ก.ค.) ว่า ถูกหญิงสาวที่รู้จักกันผ่านเฟซบุ๊กหลอกให้โอนเงิน 260 ครั้ง มูลค่ารวมกว่า 7 ล้านบาท
น.ส.นินนิสา เปิดเผยว่า ตนยอมรับว่า มีชื่อเป็นเจ้าของบัญชี 1ในบัญชีธนาคารที่ ผู้เสียหาย ระบุว่าโอนเงินไปให้นั้น โดยเป็นชื่อเก่าของตนที่ ชื่อว่า “น.ส.นันท์ธนะดี ภักดีสิงห์ทอง” ซึ่งมีเพื่อนสาวที่ชื่อ ‘ขิม’ เป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ขอยืมใช้ชื่อไปเปิดบัญชีดังกล่าว พร้อมชักชวนให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจรับตกแต่งสวนด้วยกันตั้งแต่เมื่อปี 2558 แต่ขณะนั้นตนยังมีเงินไม่เพียงพอ จึงให้ชื่อไปเปิดบัญชี และให้บัตรเอทีเอ็มกับเพื่อนไปด้วย โดยตั้งใจไว้ว่า หากมีเงินเพียงพอจะเข้าร่วมธุรกิจด้วยในภายหลัง จนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ตนก็เปลี่ยนมาเป็นชื่อปัจจุบัน
น.ส.นินนิสา เปิดเผยต่อว่า สำหรับเพื่อนสนิทที่ชื่อ “ขิม” สนิทกันมาตั้งแต่ปี 2558 ที่ผ่านมาก็ ไม่ได้มีท่าทีพิรุธใดๆ ตรงกันข้ามกลับเห็นมีการโพสต์เฟซบุ๊กใช้ชีวิตหรูหราสุขสบาย จนไม่น่าเชื่อว่าจะมีปัญหาด้านการเงิน กระทั่งเมื่อวานที่ผ่านมาตนเห็นข่าวนักธุรกิจชาย แจ้งความกับตำรวจว่า ถูกหญิงสาวหลอกให้โอนเงินมายังบัญชีที่ปรากฏชื่อเก่าของตน ก็ทำให้ตกใจมาก เพราะส่วนตัวไม่เคยรู้จักหรือพบหน้าผู้เสียหายคนนั้นมาก่อน และไม่เคยยุ่งเกี่ยวหรือได้เงินใดๆจากบัญชีนั้นด้วย
แต่กลับตกเป็นผู้ต้องสงสัยทางคดี จึงตัดสินใจมาลงบันทึกประจำวันเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่รู้เห็น และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและตนยอมรับว่าไม่มีหลักฐานใดมาแสดงต่อตำรวจ ด้วยเพราะเรื่องนี้เกิดมานานหลายปีแล้ว เมื่อตนทราบเรื่องก็รีบมาให้ข้อมูลกับตำรวจทันที หลังจากนี้ก็จะไปขอข้อมูลจากธนาคาร เพื่อมายื่นเป็นหลักฐานให้ตำรวจเพิ่มเติมด้วย
น.ส.นินนิสา กล่าวด้วยว่า ภายหลังทราบเรื่อง ตนก็ได้พยายามติดต่อไปถามเพื่อนที่ชื่อ ‘ขิม’ แต่เพื่อนกลับบ่ายเบี่ยง และติดต่อไม่ได้อีก ก็ยอมรับว่าเริ่มเอะใจ และกลัวว่าเพื่อนน่าจะเกี่ยวข้องกับการหลอกนักธุรกิจชายคนดังกล่าวจริงๆ เรื่องนี้คงเป็นบทเรียนครั้งสำคัญว่าไม่ควรไว้ใจใคร แม้กระทั่งเพื่อนสนิทก็ตาม
ที่มา : khaosod   
ผู้สนับสนุน : newsthe1  gclubtheone 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

news

เกาะติดข่าว ข่าววันนี้ ข่าวด่วน ข่าวออนไลน์ newsthai ข่าวล่าสุด ข่าวทันเหตุการณ์

FACEBOOK