ตั้ม โอนนาน เปิดใจ เพราะรัก-ถึงขั้นสร้างเรือนหอ โอนให้ 262 ครั้ง มากถึง 7 ล้าน
ตั้ม โอนนาน เปิดใจ เพราะรัก-ถึงขั้นสร้างเรือนหอ โอนให้ 262 ครั้งมากถึง 7 ล้าน
ตั้ม โอนนาน / เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายรัฐนันท์ หรือตั้ม เจ้าของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และออกแบบจัดสวน พร้อมดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ เข้าพบพ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผบก.ปอท. และร.ต.อ.ภิภพ กลมกลึง รองสว.(สอบสวน) กก.2 บก.ปอท. หลังถูกมิจฉาชีพปลอมเฟซบุ๊กเป็น น้องขิม นางเอกมิวสิควีดิโอ แล้วหลอกลวงให้โอนเงินเป็นเวลา 4 ปี จนปัจจุบันสูญเงินไปกว่า 7 ล้านบาท ทั้งยังเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายลงมือเป็นขบวนการ
นายรัฐนันท์ เปิดเผยว่า เมื่อปี 2558 ตนผิดหวังกับความรักและเครียดกับธุรกิจที่ล่ม อยู่ในช่วงอ่อนแอของชีวิต จึงเล่นเฟซบุ๊กจนได้เจอขิม มิจฉาชีพรายนี้ และได้พูดคุยกันแบบหนุ่มจีบสาว โดยคนร้ายอ้างเป็นนางแบบเอ็มวี พร้อมทั้งส่งรูปภาพมาให้ดู และติดต่อเรื่อยมาเป็นระยะเวลากว่า 4 ปี ทั้งทางเฟซบุ๊ก ไลน์และโทรศัพท์ ก่อนโอนเงินไปมากกว่า 262 ครั้ง รวมมูลค่ามากกว่า 7 ล้านบาท
ซึ่งระหว่างนั้นคนร้ายอ้างว่า ต้องใช้เงินหลายอย่าง เนื่องจากไม่ได้ทำงาน เพราะป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ต้องเข้ารับการรักษา พร้อมส่งรูปไอเป็นเลือด ตนจึงเกิดความสงสาร โอนเงินให้ 3 หมื่นบาท เพราะขนาดหมาแมวก็ยังเก็บมาเลี้ยงตั้งหลายตัว และนี่เป็นคนทำไมจึงจะช่วยเหลือไม่ได้ กระทั่งต่อมาได้คุยกันถึงขั้นจะสร้างเรือนหอและดาวน์บ้าน ในส่วนนี้ตนก็ได้โอนเงินไปหลายล้านบาท หลังจากนั้นจึงได้โอนเงินให้เรื่อยมา
นายรัฐนันท์ กล่าวอีกว่า จากนั้นเมื่อปลายปี 2561 ตนได้ทะเลาะกับขิม และเลิกติดต่อกันไปพักหนึ่ง แล้วตนได้พูดคุยกับเมย์ หญิงสาวอีกรายทางเฟซบุ๊ก แต่คนนี้ได้เจอตัวกันจริงๆ จนขิมติดต่อกลับมา และบอกตนว่าเมย์มีส่วนพัวพันกับเรื่องยาเสพติด ขิมรู้จักกับผู้ใหญ่จะช่วยเคลียร์เรื่องทางคดีให้ โดยต้องจ่ายเงิน 9 แสนบาท ตนจึงโอนให้ แต่เรื่องยังไม่จบและขิมบอกว่าเงินยังไม่พอ ให้โอนไปอีก 2 ล้านบาท เพื่อหักลบหนี้ที่เคยโอนไปให้ทั้งหมด รวมเงินที่โอนเบ็ดเสร็จ 7 ล้านบาท
แต่ระหว่างนั้นขิมยังโทรศัพท์เข้ามาข่มขู่ตนและแม่เป็นระยะๆ กดดันให้โอนเงินอีก จนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ตนนำเลขบัญชี 3 ชื่อ 2 บัญชีไปตรวจสอบ จึงทราบชื่อและใบหน้าเจ้าของบัญชีที่แท้จริงว่าไม่ตรงปกกับภาพในเฟซบุ๊ก จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก และได้รวบรวมหลักฐานการแชทพูดคุย รวมถึงสลิปโอนเงินและคลิปเสียงมาประกอบการแจ้งความในวันนี้ โดยยอมรับว่าที่โอนเงินไปให้ เพราะความสงสารและความรักแม้จะไม่เคยเห็นตัวจริงก็ตาม
ด้านพ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะรับเรื่องไว้ลงในบันทึกประจำวัน ก่อนสอบปากคำผู้ร้องทุกข์อย่างละเอียด พร้อมประสานการทำงานกับกองปราบปราม เนื่องจากลักษณะการกระทำเข้าข่ายโรแมนสแกม หรือหลอกรักออนไลน์ ซึ่งมิจฉาชีพมีวิธีหลอกลวงเหยื่อโดยใบหน้าผู้อื่นมาสร้างบัญชีเฟซบุ๊กปลอม มาพูดคุยให้เกิดความรัก โดยจะสร้างเรื่องราวต่างๆ ทั้งหลอกลงทุน รับมรดก หรืออ้างความเจ็บป่วย ให้เกิดความสงสารเห็นใจ
ปกติแล้วคนร้ายที่ก่อเหตุมักจะเป็นชาวต่างชาติผิวสี แต่ระยะหลังเริ่มมีคนไทยก่อเหตุมากขึ้น จึงขอฝากเตือนประชาชนว่า หากติดต่อกับผู้ใดและจำเป็นต้องโอนเงิน ควรนัดเจอเพื่อพูดคุยกัน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ เพราะคนร้ายจะปฏิเสธการพบเจอหรือแม้แต่วีดิโอคอล
ที่มา : khaosod
ผู้สนับสนุน : newsthe1 gclubtheone
ผู้สนับสนุน : newsthe1 gclubtheone
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น