ไม่เปิดไฟหน้า! จยย.ขับย้อนศร พุ่งประสานงากระบะร่างหญิงลอยข้ามรถดับคาที่2ศพ
ไม่เปิดไฟหน้า! จยย.ขับย้อนศร เลนขวา กระบะเบรกไม่ทัน พุ่งชนประสานงาเต็มแรง ไฟลุกท่วมเสียชีวิตคาที่ 2 ศพ ตำรวจเตรียมเช็กวงจรปิด
เมื่อเวลา 02.54 น. วันที่ 13 ส.ค. ร.ต.ท.อัยยรัช ศศิธรเวชกุล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.บางโพงพาง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะ บนถนนพระราม 3 หน้าวัดด่าน แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลจุฬา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 5 เลน ช่องทางขวาสุดเป็นเลนพิเศษมีแท่งปูนกั้นช่องทาง บริเวณเลนที่ 4 พบรถกระบะ ยี่ห้อมาสด้า รุ่นบีที 50 สีเทา ทะเบียน ฒฐ6456 ด้านหน้าพังเสียหายยันเยิน ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮา รุ่นอาร์15 สีน้ำเงิน ทะเบียน 4กฐ6944 กรุงเทพมหานคร มีเพลิงกำลังลุกไหม้ท่วมทั้งคัน ข้างรถจักรยานยนต์พบศพ นายวิชัย สีสด อายุ 33 ปี สวมเสื้อยืดสีเทา กางเกงยีนขายาว นอนเสียชีวิตคาที่ ห่างจากรถกระบะประมาณ 20 เมตร พบ น.ส.ตุ๊กตา ราชสะอาด อายุ 33 ปี สวมเสื้อลาย กางเกงยีนขาสั้น สภาพนอนหายใจรวยริน เจ้าหน้าที่พยายามให้การช่วยเหลือแต่ไม่ทันการ ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบสวน นายอ่อง อายุ 30 ปี ชาวเมียนมา คนขับรถกระบะ ให้การว่า ตนขับรถกำลังจะไปทำงานที่ จ.สมุทรสาคร ขณะเกิดเหตุตนขับรถมาเลนขวาสุดเป็นทางโค้งยาว พอหลุดทางโค้งมาตนเห็นรถจักรยานยนต์ คล้ายรถจักรยานยนต์ตำรวจขับย้อนศรมาอยู่เลนซ้ายสุด แต่กลับมีรถจักรยานยนต์อีกคันขับย้อนศรมาในช่องทางขวาสุดด้วยความเร็วและไม่เปิดไฟหน้า ตนพยายามเบรกแต่ไม่ทัน รถจักรยานยนต์พุ่งชนประสานงาอย่างแรง จนร่างของผู้หญิงที่ซ้อนท้ายกระเด็นเหินข้ามรถตนไปไกล ส่วนผู้ชายคนขับนอนนิ่งอยู่หน้ารถตน
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เป็นคนขับรถส่งอาหาร เปิดเผยว่า ตนขับรถมาส่งอาหารใกล้จุดเกิดเหตุขามาตนเห็นกลุ่มรถจักรยานยนต์แว้นขับยกล้อผ่านไป หลังจากตนส่งอาหารเสร็จ ขณะขับกลับออกมาก็เห็นอุบัติเหตุแล้วตนก็รีบแจ้งตำรวจแจ้งกู้ภัยมาช่วยเหลือ
ด้าน ร.ต.ท.อัยยรัช กล่าวว่า เบื้องต้นได้นำตัวคนขัยรถกระบะ และพยานแวดล้อมไปสอบสวนเพิ่มเติม จากการสังเกตที่เกิดเหตุค่อนข้างชัดเจนว่ารถจักรยานยนต์ขับย้อนศรมา อย่างไรก็ตาม ต้องตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดดูเหตุการณ์อีกครั้ง และประสานญาตินำศพผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น