บีม-กวี ตื่นเต้น ภรรยาเตรียมคลอดลูกแฝด – สุดเศร้า แม่ป่วย แถมเจออุบัติเหตุ

วันที่ 13 ส.ค. ที่ เดอะ เซอร์คัส ลาดพร้าว 18 บีม-กวี ตันจรารักษ์ นักร้อง-นักแสดงชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ระหว่างมาร่วมถ่ายโปรโมต โปรเจ็กต์ใหญ่ “D2B Infinity Concert 2019” อัพเดตพัฒนาการน้องแฝดในท้องภรรยา รวมถึงอาการของคุณแม่ที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง

อัพเดตพัฒนาการของน้องแฝดในท้องภรรยาสักหน่อย?
“ตอนนี้ 7 เดือนกว่าแล้วครับ ใกล้มากแล้วครับ พอเป็นแฝดบางทีเขาอาจจะมาเร็วกว่า 9 เดือน แต่ตามแพลนก็ประมาณตุลาคมนี้ครับ ที่ผ่านมามีภาวะที่ต้องดูแลเป็นพิเศษด้วย คุณหมอบอกว่าปากมดลูกสั้นกว่าปกติ ทุกวันนี้ก็พยายามไม่ให้เขาเดินเยอะ เวลาไปไหนที่ต้องเดินเยอะๆ ก็พยายามให้เขานั่งรถเข็น”

ช่วงแรกๆ ที่ทราบเกี่ยวกับภาวะปากมดลูกสั้น เราเครียดไหม?
“เราก็ต้องดูแลกันเป็นวันๆ ไปเลยครับ ต้องช่วยกัน เพราะเราตั้งใจอยากจะมีเขาตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นมันก็ต้องทำทุกวันให้ดีที่สุด เราไปตรวจครรภ์ทุกเดือนครับ จากที่ตรวจมาครั้งล่าสุดก็ปกติ มันไม่สั้นขึ้น เราสบายใจแล้ว อาจจะเป็นเพราะว่าผมดูแลดีก็ได้(ยิ้ม)”

ต้องไปนอนรอที่โรงพยาบาลก่อนไหม?
“ก่อนหน้านี้ คุณหมอเขาจะนัดทีละเดือน แต่จากสัปดาห์นี้เป็นต้นไป อาจจะนัดถี่ขึ้น อาจจะเป็น 2 อาทิตย์ ใกล้ๆ อาจจะนัดถี่ขึ้นอีก ถามว่าต้องไปนอนมั้ย ตอนนี้ยังไม่มีภาวะอะไรแบบนั้น ยังใช้ชีวิตปกติครับ แต่ก็ตื่นเต้นเหมือนกัน มันประดังประเดมากความรู้สึกตอนนี้ หลายๆ อย่าง ก็ดีใจ อยากเจอหน้าแล้ว แต่แฟนเขาบอกว่า ก็ยังไม่ต้องรีบนะลูก มาตามเกณฑ์ดีกว่า(หัวเราะ)”

เรากับภรรยาทำช่องยูทูบให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย?
“ใช่ครับ ตอนที่ผมกับภรรยาตั้งใจจะมีลูก เขาเป็นคนละเอียดเรื่องพวกนี้ ถ้าเผื่อว่ายิ่งเกี่ยวกับร่างกายตัวเอง เขาจะต้องการความรู้มากๆ เพราะเราไม่รู้ว่าต้องฉีดอะไรเข้าไปอยู่ในตัว หรือต้องเตรียมอะไร เพื่อจะทำให้มันสำเร็จเรียบร้อยดีทุกอย่าง ไปดูข้อมูลต่างๆ ในอินเตอร์เน็ตก็ไม่มีใครบอกความรู้หรือประสบการณ์ของคนที่ทำแนวนี้จริงๆ เขาเลยอยากจะแชร์ข้อมูล เลยตั้งใจตั้งแต่ตอนนั้นว่าถ้าเผื่อเวลาถึงตอนเขาเอง ถ้าเขาทำสำเร็จเขาอยากจะแชร์ข้อมูลตรงนี้ มันจะผ่านกระบวนการอะไรบ้างนะ เรื่องราวมันจะเป็นยังไง เลยคิดว่าเรามาทำและให้ความรู้กันดีกว่า อย่างน้อยก็ได้แชร์ความรู้ บุญส่วนนี้จะได้มาช่วยดูแลลูกเราด้วย เขาจะได้ออกมาสมบูรณ์อย่างที่เราตั้งใจไว้”

ช่วง 3 เดือนแรกลุ้นไหมว่าจะเป็นยังไง?
“มีครับ อย่างช่วง 3 เดือนแรก เขาจะไม่ยอมออกไปไหน อยู่แต่บ้าน นอนอยู่บนเตียงอย่างเดียว แต่ไม่ได้ถึงขนาดลุกไปเข้าห้องน้ำไม่ได้ ใช้ชีวิตทางราบอย่างเดียว ไม่ได้ขึ้นบันได และพยายามไม่เดินเยอะ”

ภรรยาก็ใกล้คลอด แถมคอนเสิร์ตก็ต้องขึ้นแสดง แบบนี้เราต้องจัดการเรื่องการดูแลภรรยายังไงบ้าง?
“ทุกวันนี้ต้องมีคนที่อยู่ติดกับคุณออยเขาโดยเฉพาะเลยครับ หรือถ้าวันไหนที่เขาอยากจะมากับผมจริงๆ อาจจะต้องมีคนมาคอยช่วยดูแลเขาอีกประมาณหนึ่ง หรือถ้าเขาจะมาด้วยผมต้องหาที่นั่งที่ดีๆ ให้กับเขา คือมันอาจจะต้องดูแลกันให้มากเป็นพิเศษกว่าปกติ”

ได้คิดชื่อของน้องไว้แล้วหรือยัง ?
“นี่แหละครับ เราคิดเรื่องชื่อกันหนักมาก ถึงขนาดเปิดโอกาสให้เป็นแฟนช่วยกันเสนอมาเลย เผื่อว่าเขาจะมีชื่อเพราะๆ มาแบ่งให้เราได้ใช้ ซึ่งตอนนี้เราเองก็มีอยู่ในใจประมาณ 2-3 ชื่อ คุณออยเขาชอบชื่อ ‘เสือ-สิงห์’ ส่วนผมก็จะชอบชื่อ ‘เอซี-ดีซี’ ซึ่งมันจะเป็นชื่อย่อของไฟฟ้าอะไรสักอย่าง แต่มันอาจจะฟังดูยากเกินไป เพราะคุณแม่เขาก็ไม่ได้ชอบชื่อนี้เหมือนกัน เดี๋ยวลองดูแล้วกัน ยังไงเราก็ไม่ได้รีบอยู่แล้ว ดีไม่ดีวันที่เขาคลอดเราอาจจะยังไม่มีชื่อเลยด้วย รอดูไปก่อนครับ”

เราเองก็มีหลานแฝด แบบนี้มันทำให้การเลี้ยงลูกของเราง่ายขึ้นกว่าเดิมไหม?
“พูดตรงๆ ว่าเวลาเลี้ยงหลานมันก็เป็นอีกแบบหนึ่งนะครับ เหมือนเราแค่ไปเยี่ยมเขาเฉยๆ เราไม่เลี้ยงจริง แต่ถ้าเราต้องเลี้ยงลูกของเราเองมันก็คงจะเป็นอีกแบบ น่าจะเหนื่อย ทุกวันนี้ผมชื่นชมคุณแม่ทุกท่านเลยครับ”

ได้มีโอกาสเปิดตำราหาข้อมูลเกี่ยวกับการเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่บ้างหรือยัง?
“ยังเลยครับ เพราะว่าช่วงนี้ผมยุ่งมากทั้งงานละคร งานคอนเสิร์ต แต่ทุกวันนี้ก็พยายามรีบกลับบ้านเพื่อไปคุยกับภรรยา ว่าในแต่ละวันเขาเป็นยังไงบ้าง ลูกดิ้นไหม อาการเป็นยังไง และก็ถามข้อมูลจากน้องๆ ที่รู้จัก อย่างล่าสุดที่คุยกับภรรยาเขาก็บอกว่าให้เตรียมตัวเอาไว้ ต้องเตรียมกระเป๋านู่นนั่นนี่ เพื่อที่จะได้พร้อมเดินทางทันทีหากมีอะไรเกิดขึ้น”

เรากับภรรยาตั้งใจจะผ่าคลอดด้วยหรือเปล่า?
“จริงๆ พอเป็นน้องแฝดแบบนี้คุณหมอเขาก็แนะนำว่าอยากให้ผ่ามากกว่าคลอดแบบธรรมชาติครับ”

อัพเดตอาการป่วยของคุณแม่หน่อย?
“จริงๆ ไม่ได้ตั้งในจะบอกทุกคน การป่วยของแม่อยู่ๆ เขาก็เจ็บคอขึ้นมา ลักษณะคือกินข้าวไม่ค่อยได้ มีแผลในคอ โชคดีน้องเป็นหมอ ให้น้องพาไปตรวจ ทราบว่าเป็นโรคอะไรบางอย่างที่ชื่อมันเรียกยากๆ เรียกว่าภูมิแพ้ตัวเองแล้วกัน ซึ่งไปให้ยาตามนั้น แรกๆ ก่อนให้ยาแม่ออกไปข้างนอกไม่ได้เลย เพราะเชื้อมันจะเร็วมาก ไม่ให้ออกไปโดนอากาศข้างนอก คุณแม่เป็นมาสักระยะแล้วสัก 2-3 เดือน ตอนนี้ดีขึ้น พอดีขึ้นก็ออกไปข้างนอก แม่ผมชอบออกไปข้างนอก เพราะอยู่บ้านเบื่อเนอะ เขาไปไหนมาไหนกับพ่อ 2 คน มีความสุขกัน ลูกโตหมดแล้ว พอออกไปข้างนอกวันแรกเลยไปเดินตลาด เขาชอบไปซื้อปลาหมึกของสดให้ลูกทาน แค่ก้าวลงจากรถก็ล้ม เหมือนเขาคงไม่ค่อยได้เดินมาก ขาไม่มีแรง กระดูกร้าวหัก ตอนนี้ก็เลยนอนอยู่ที่บ้าน”

แม่ยังสื่อสารได้?
“แม่ผมปกติดี แข็งแรง โรคนั้นต้องรักษาต่อไป ตอนนี้ก็ใส่เฝือก รักษามาได้เกือบเดือนแล้ว คงใกล้จะถอดเฝือกแล้ว”

ต้องกายภาพไหม?
“ผมว่าไม่น่าถึงขนาดนั้น ยังเดินสบายครับ แม่ผมยังแข็งแรง แต่ตอนนั้นน่าจะเป็นจังหวะที่ลงจากรถ แล้วเข่าอ่อนเฉยๆ ผมว่าคนก็คงเคยเป็นกัน ถามว่ารู้สึกยังไงกับการที่แม่ป่วยแล้วมามีอุบัติเหตุอีก ผมก็รู้สึกว่า(น้ำตาคลอ) ต้องดูแลแม่ให้ดีกว่านี้ มันมีบางจังหวะที่แม่จะพูดเวลาไปเยี่ยมทีไร แม่ก็จะบอกว่า เดี๋ยวนี้แม่ไม่มีโอกาสได้ดูแลแล้วนะ(เสียงสั่นเครือ) เราต้องดูแลตัวเองนะ คือรู้สึกว่า…แม่ป่วยขนาดนี้แล้ว ยังต้องมาดูแล หมายถึงพยายามจะมาดูแลเราอีกเหรอเนี่ย”

แต่แม่กำลังใจดีใช่ไหม เห็นลูกหลานเต็มเลย?
“ใช่ๆ ผมอยากจะให้น้องมาบ่อยๆ ให้เจอหลานบ้าง อย่างเมื่อวานนี้ปกติแม่จะอยู่ในห้องนอนอย่างเดียว เราก็พยายามบอกว่าหลานมาเยอะ ออกมาเร็ว”

คุณหมอบอกว่าจะหายขาดไหม?
“น้องเขาบอกว่าโรคนี้จะหายขาดเลยยาก อาจจะต้องดูอาการไป แม่ยังสาวอยู่ แม่ยังแข็งแรงครับ เราก็ดูแลดีที่สุด เพราะเป็นคนที่เรารักมากที่สุด”

ขอบคุณรูปจากไอจี : beamkawee

ผู้สนับสนุน : newsthe1 gclubtheone